https://192.168.19.136:2583/SiteCollectionImages/2023/Market%20tigger/09-Core-Satellite-Portfolio_BN.jpg
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งความกังวลเงินเฟ้อ แนวโน้มที่ธนาคารกลางต่างๆ จะยังคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง ความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงทางฝั่งจีนที่ยังไม่ฟื้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล ส่งผลให้ตลาดการเงินยังคงเผชิญความผันผวน
บลจ.กสิกรไทย แนะนำพอร์ตการลงทุนอย่างไร เพื่อไม่ให้นักลงทุนพลาดโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับมีการจำกัดความเสี่ยงไม่ให้พอร์ตของเราผันผวนจนเกินไป
แนะนำการจัดพอร์ตแบบ Core-Satellite เนื่องจากเป็นการจัดพอร์ตที่นักลงทุนทั่วไป ทำได้ง่าย และเป็นการจัดพอร์ตที่มีความยืดหยุ่น เหมาะกับสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ผันผวน ในขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มจังหวะทำกำไรในช่วงตลาดขาขึ้น หรือลดความผันผวน ในช่วงตลาดขาลง
จัดพอร์ตแบบ Core-Satellite ทำอย่างไร?
พอร์ตแบบ Core- Satellite จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 : Core Portfolio
ซึ่งเป็นส่วนหลักของพอร์ตโฟลิโอ มีน้ำหนักประมาณ 70-80% ของพอร์ต กระจายการลงทุนไปหลากหลายสินทรัพย์ เน้นการกระจายความเสี่ยงเป็นหลัก เป็นการลงทุนระยะยาว และสามารถ Rebalance ได้ทุกไตรมาส
ส่วน Core portfolio จะเป็นตัวสร้างผลตอบแทนที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ไม่หวือหวา
แนะนำกองทุน K-GA, K-GINCOME, K-PLAN2 และ K-PLAN3 หรือสามารถจัดพอร์ตเองได้
ส่วนที่ 2 : Satellite Portfolio
ซึ่งเป็นส่วนเสริมของพอร์ตโฟลิโอ มีน้ำหนักประมาณ 20-30% ของพอร์ต
เป็นการลงทุนโดยการใช้ Active Management และสามารถลงทุนที่กระจุกตัวมากขึ้นได้ เช่น กองทุนที่ลงทุนรายประเทศ กองทุนรายอุตสาหกรรม หุ้นรายตัว ตัวอย่างของกองทุนแนะนำ เช่น K-USA และ K-INDIA
"จุดประสงค์ของการสร้าง Satellite เป็นการแสวงหาผลตอบแทนที่มากขึ้น สร้างจังหวะในการทำกำไรในตลาดขาขึ้น ในขณะเดียวกันก็ลดความผันผวนในช่วงตลาดขาลง โดยในจังหวะตลาดขาขึ้น Satellite จะเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนเพิ่มผลตอบแทนเพื่อให้เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น"
จัดพอร์ตแบบ Core-Satellite เหมาะกับใคร?
เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกกองทุนด้วยตัวเอง เพื่อสร้างผลตอบแทนในช่วงตลาดขาขึ้น
สัดส่วนของน้ำหนักในพอร์ต Core- Satellite สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้มากพอสมควร
สินทรัพย์รวมกันระหว่าง Core-Satellite ที่แนะนำ คือ
โดยที่ผลตอบแทนย้อนหลังของพอร์ตโฟลิโอจะอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี และค่าความเสี่ยงอยู่ที่ประมาณ 9.5% ต่อปี
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com
บทความโดย
คุณมทินา วัชรวราทร,CFA, Head of Investment Strategy
ข้อมูล ณ วันที่ 6 กันยายน 2023
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
อัปเดตวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน …เกิดอะไรขึ้น? >>
Clickเมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ย ...แต่ไม่ชัดว่าเป็นครั้งสุดท้าย >>
Clickสรุปสัญญาณ จากประชุม Politburo ของจีน >>
ClickGDP จีนไตรมาสแรกขยายตัว 4.5% สูงกว่าคาด >>
Click