10/21/2022

ช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ลงทุนยังไง? …ถึงได้รับประโยชน์สูงสุด

​​​


"จากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกต้องใช้ยาแรงในการสกัดเงินเฟ้อผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สำหรับไทยเองก็เลือกใช้เครื่องมือนี้เช่นกัน โดยในปีนี้ กนง. มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว 2 ครั้ง ในเดือน ส.ค. และ ก.ย. ที่ผ่านมา" 

วันนี้ KAsset เลยจะพาทุกท่านมาดูกันว่า เมื่อสถานการณ์โลกอยู่ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น การลงทุนแบบไหนจะได้ประโยชน์สูงสุด

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คืออะไร?
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเครื่องมือที่ธนาคารกลางใช้ดำเนินนโยบายทางการเงิน ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน ผ่านการปรับลดดอกเบี้ย หรือชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อ ด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเราจะเห็นว่าขณะนี้ว่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติเงินเฟ้อรุนแรงในรอบหลายปี และเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น

Line_ดอกเบี้ยขาขึ้น.jpg

เมื่อธนาคารกลาง ขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลอย่างไร?
สถาบันทางการเงิน จะทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยประเภทต่างๆ ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินฝาก รวมถึงดอกเบี้ยที่เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งถ้ามีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่ละครั้ง จะส่งผลกระทบต่อเนื่อง ดังนี้

🟢 1. ประชาชนใช้จ่ายน้อยลง และ​งดสร้างหนี้​
เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ผู้คนจะเริ่มระมัดระวังในการจ่ายเงิน การจับจ่ายใช้สอยน้อยลง เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงในที่สุด

🟢 2. ธุรกิจชะลอการขยายตัว เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น​
ความน่าสนใจของการลงทุนจะลดลง แนวโน้มจะฝากเงินไว้ในธนาคารเยอะขึ้น เพราะได้ผลตอบแทนจากเงินฝากสูงขึ้น จึงมีแรงจูงใจน้อยลงที่จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่มีความเสี่ยงมากกว่า แต่ผลตอบแทนอาจจะไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่นัก

ส่วนการลงทุนของภาคธุรกิจ ก็จะมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น จากภาระหนี้ที่อาจเพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้หลายบริษัทอาจจะชะลอการขยายธุรกิจออกไปก่อนในช่วงนี้ หรือลงทุนอย่างระมัดระวังตัวขึ้น ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคต

🟢 3. เกิดการระดมทุนเพื่อล็อกต้นทุน เช่น ออกหุ้นกู้ เพิ่มทุนจดทะเบียน
ในระยะสั้น หลายธุรกิจอาจจะเร่งการลงทุนก่อนที่ดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น โดยระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การออกหุ้นกู้ หรือ เพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อเป็นการล๊อกต้นทุนทางการเงินในระยะยาว 

ความเสี่ยงในการลงทุนผ่าน หุ้นกู้เอกชน โดยตรง
  • นักลงทุนต้องประเมินความเสี่ยงเอง จากอันดับความน่าเชื่อถือ และผลประกอบการของบริษัท 
  • มีความยืดหยุ่นต่ำ ต้องใช้เงินก้อนซื้อ และถือหุ้นตามสัญญา 2-5 ปี 
  • หากต้องการขายก่อนอายุสัญญาสามารถไปเปิดพอร์ทซื้อขายในตลาดรอง (BEX) ได้ด้วยตนเอง
ดอกเบี้ยขาขึ้น ควรลงทุน อะไรดี?
การลงทุนในภาวะเช่นนี้ หากลงทุนในกองตราสารหนี้ที่เป็น Passive fund (อายุตราสารที่ลงทุนเฉลี่ยจะยาว) จะได้รับผลกระทบทางลบจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น (เนื่องจากราคาตราสารหนี้จะปรับตัวลง สัมพันธ์กับอัตราผลตอบแทนในทางตรงกันข้าม) แต่ก็ยังนับว่ามีการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตได้ดี หากรับความเสี่ยงได้มากขึ้นก็อาจลงทุนใน Active fund ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมต่อสภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ 

คำแนะนำการลงทุนจาก บลจ.กสิกรไทย
ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังเป็นขาขึ้น นักลงทุนควรปรับพอร์ตลงทุน ในส่วนของตราสารหนี้ ด้วยการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนทีเพิ่มขึ้น จากการที่กองทุนนำเงินที่ถือตราสารหนี้จนครบอายุ และได้ผลตอบแทนจากเงินต้นและดอกเบี้ยเต็มจำนวน ไปลงทุนต่อ (Roll Over) ในตราสารหนี้ใหม่ที่จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น

🟢 1. สำหรับนักลงทุนที่ รับความเสี่ยงได้น้อย : แนะนำกองทุน Term Fund 
ที่มีอายุไม่ยาว ประมาณ 6 เดือน จนถึง 12 เดือน เมื่อครบกำหนดอายุโครงการ ก็สามารถลงทุนต่อเนื่อง Roll Over ไปลงทุนใหม่ในกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้นได้ 

ข้อดีของการลงทุนใน กองทุน Term Fund
  • ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้คุณภาพดี ทั้งในและต่างประเทศ
  • รู้ประมาณการผลตอบแทนได้คร่าวๆ ก่อนการลงทุน 
  • ใช้เวลาลงทุนเพียง 6 หรือ 12 เดือน เพื่อรอจังหวะลงทุนใหม่ตามเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้นได้อีก


🟢 2. สำหรับนักลงทุนที่ รับความเสี่ยงได้มากขึ้น : แนะนำกองทุน K-GINCOME-A(R) 
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทนทุกเดือน (Income) จากการ Automatic Redemption หรือ การขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยกองทุนมีการกระจายลงทุนในทุกสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งเงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้นฯ ทำให้สามารถลงทุนได้ทุกช่วงทุกเวลา เพราะมีการปรับสัดส่วนให้ทันกับสภาวะตลาด​

ข้อดีของการลงทุนใน กองทุน K-GINCOME-A(R)​
  • กระจายลงทุนหลากหลายทั่วโลก ทั้ง หุ้นกู้ หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก 
  • โอกาสรับรายได้สม่ำเสมอทุกเดือน ด้วยนโยบาย รับซื้อคืนอัตโนมัติ 12 ครั้ง / ปี
  • ลงทุนได้ทุกช่วงทุกเวลา เพราะมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้ทันกับสภาวะตลาด ​
 
บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย 
ที่มา : www.setinvestnow.com
ข้อมูล ณ วันที่ 21 ต.ค. 2565​

หมายเหตุ ​:

กองทุนมีนโยบายที่แตกต่างกันทั้งด้านสินทรัพย์ / ภูมิภาค / ประเทศ / กลุ่มธุรกิจที่กองทุนลงทุนราคาของหลักทรัพย์ จึงมีความผันผวนตามปัจจัยที่กระทบ / หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าวผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก / ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / หากสนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย หรือ www.kasikornasset.com​


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
เช็คสิทธิลดหย่อนภาษี ฉบับมนุษย์เงินเดือน​ >>อ่านต่อ
ดอกเบี้ยขึ้น 0.25% วางแผนลงทุนยังไง?​ >>อ่านต่อ
กนง. ขึ้นดอกเบี้ย ไปอยู่ที่ 1.00% ต่อปี >>อ่านต่อ

Yes
10/21/2022