HIGHLIGHTS :
• ไทยและจีน เป็นเพียง 2 ประเทศในเอเชีย ที่เศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2566
• IMF คาดหนี้สาธารณะไทยจะค่อยๆทยอยลดลงในช่วง 5 ปี ข้างหน้า
• เตือนราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการบริโภค
• KAsset มองหุ้นไทยยังน่าสนใจในระยะยาว จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WORLD ECONOMIC OUTLOOK REPORT) ของเดือนต.ค. 2565 โดยระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวแบบชะลอตัว ทั้งนี้ นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ IMF กล่าวในที่ประชุม APEC ว่า เศรษฐกิจของประเทศสมาชิก APEC ส่วนใหญ่กำลังชะลอตัวลง และอย่างน้อย 1 ใน 3 ของโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
“อย่างไรก็ดี บางพื้นที่ยังคงมีความสดใส หนึ่งในนั้นคือ ภูมิภาคอาเซียน”
รายงานของ IMF ยังแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยและจีน เป็นเพียง 2 ประเทศในเอเชีย ที่เศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2566 เมื่อเทียบกับคาดการณ์ปีก่อนหน้า โดย GDP มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในปีนี้ เป็น 3.7% ในปีหน้า
สำหรับ GDP ของจีนนั้น IMF คาดว่าจะขยายตัว 4.4% ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.2% ในปี 2565 จากปัจจัยหนุนด้านการเตรียมเปิดประเทศหลังมีการผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์อัตราการว่างงานของไทยอยู่ที่ 1% ซึ่งต่ำที่สุดในโลก ทั้งในปีนี้และปีหน้า ขณะที่ในปี 2564 อัตราว่างงานของไทยอยู่ที่ 1.5% เป็นรองแค่ประเทศคูเวตที่ 1.3%
อนึ่ง ทั้ง IMF และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มองทิศทางเศรษฐกิจไทยเป็นไปในเชิงบวก
โดยในรายงานยังระบุอีกว่า ในปี 64 ที่ผ่านมาไทยได้รับแรงหนุนจากการตอบสนองเชิงนโยบายที่รวดเร็ว และการฟื้นตัวของการส่งออก ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัว 1.6% หลังจากติดลบหนักถึง 6.2% ในปี 63 (ที่มา : https://tradingeconomics.com/thailand/full-year-gdp-growth)
เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกอย่างต่อเนื่อง จากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน
IMF คาดหนี้สาธารณะไทยจะค่อยๆทยอยลดลงในช่วง 5 ปี ข้างหน้า
ในด้านของหนี้สาธารณะไทย IMF ก็ยังคาดการณ์ว่าจะลดลงในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยในปีพ.ศ. 2570 คาดว่าหนี้สาธารณะไทยจะอยู่ที่ 59.5% ต่อ GDP ซึ่งลดลงจากปี 65 ที่มีตัวเลขประมาณการอยู่ที่ 61.5% ต่อ GDP (ที่มา : https://thestandard.co/imf-thai-public-debt/)
แม้ว่าตัวเลขหนี้สาธารณะไทยจะยังไม่กลับไปสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนมี COVID-19 แต่จากการประเมินตัวเลขล่วงหน้า ก็แสดงให้เห็นว่าหนี้สาธารณะไทยมีแนวโน้มลดลง
เตือนราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการบริโภค
อย่างไรก็ตาม IMF เตือนว่า ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคของภาคเอกชน และอุปสงค์จากภายนอก และยังมีเรื่องของภาวะการเงินโลกตึงตัว การชะลอตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างยิ่งใหญ่ของไทย เพราะอาจทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงักได้
หุ้นไทยยังน่าสนใจในระยะยาว จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง
KAsset มองว่า หุ้นไทยยังมีความน่าสนใจในระยะยาว โดยการที่ กนง. มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งใช้นโยบายแบบตึงตัว จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนไปพร้อมกับการเติบโตของหุ้นไทย พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
แนะนำ K-STAR-SSF และ K-STAR-RMF : เน้นลงทุนหุ้นไทย กลุ่มที่มีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว >>
Click<<
พิเศษกับโปรปลายปี! ลงทุน SSF/RMF กสิกรไทย ทุก 50,000 บ. รับหน่วยลงทุน K-CASH 100 บ. (สูงสุด 1,000 บ.) สิ้นสุด 30 ธ.ค. 65 *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
สนใจลงทุน เริ่มต้นเพียง 500 บาท ผ่านแอป K-My Funds ตลอด 24 ชม.
บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 24 พ.ย. 2565
คำเตือน
- ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
- กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ลงทุน SAVE ภาษีกันดีกว่า >>
อ่านต่อทำไมลงทุนเร็ว ถึงดีกว่าเริ่มลงทุนช้า >>
อ่านต่อ