```````````````````````````````````````````
HIGHLIGHTS :
• ตลาดหุ้น VNI Index ปรับตัวลงกว่า 4% เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา
• สาเหตุหลักมาจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และเงิน VND ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง
• ในระยะสั้น มีมุมมองระมัดระวัง จากข่าวเชิงลบจากภายนอกที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงขึ้น
• ในระยะกลางและยาว ยังคงมุมมองเชิงบวกจากปัจจัยพื้นฐานของประเทศที่ยังแข็งแกร่ง
• ราคาหุ้นที่ย่อลงไปมาก เป็นโอกาสทยอยสะสม แนะควรมีหุ้นเวียดนามในพอร์ตหุ้น 5-10%
ตลาดหุ้นเวียดนาม (VNI Index) ปรับตัวลง 4% เมื่อวานนี้
การปรับตัวลงของตลาดหุ้นเวียดนาม (วันที่ 3 ต.ค. 65) หลักๆ สาเหตุมาจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ค่าเงินเวียดนามด่อง (VND) อ่อนค่าต่อเนื่อง
ตลอดจนปัจจัยลบเพิ่มเติม ภายหลังที่มีข่าวสถานะทางการเงินที่ไม่แน่นอนของธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse Bank) ประกอบกับแรงซื้อหุ้นเวียดนามค่อนข้างเบาบาง ส่งผลให้ไม่มีแรงรับการขายของนักลงทุนรายย่อย กดดันดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม ปิดลบลงไป 4.03%
มุมมองจากผู้จัดการกองทุน
ในระยะสั้น ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองระมัดระวัง เนื่องจากในช่วงนี้ นักลงทุนรายย่อยค่อนข้างให้ความสำคัญกับข่าวเชิงลบจากภายนอกเป็นหลัก ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงขึ้น
บลจ.กสิกรไทย ยังคงมุมมองเชิงบวก จากปัจจัยพื้นฐานของประเทศเวียดนามที่ยังแข็งแกร่ง
ในระยะกลางและยาว บลจ.กสิกรไทย ยังคงมุมมองเชิงบวก จากปัจจัยพื้นฐานของประเทศที่ยังแข็งแกร่ง ทั้ง GDP FDI การส่งออก การบริโภคในประเทศ ขณะที่อัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในระดับสูง ที่ +24.1% ปีนี้ และ 16.8% ในปีหน้า
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง ประกอบกับธนาคารกลางเวียดนาม มีแนวโน้มจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.5-1% เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นเวียดนามในระยะสั้น จึงปรับเป้าปลายปีนี้ลงมาที่ 1,300 จุด (เป้าเดิม 1,400 จุด)
คำแนะนำการลงทุน จาก บลจ.กสิกรไทย
KAsset ยังคงมุมมองบวกต่อการลงทุนในหุ้นเวียดนาม (Positive) โดยหากดูจากปัจจัยภายในประเทศเวียดนามมีความน่าสนใจทั้งแง่เศรษฐกิจที่ GDP ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และกำไรบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ในระดับสูง
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นเวียดนามถือว่ามีความผันผวนสูงเนื่องจากมีสัดส่วนหลักเป็นนักลงทุนรายย่อย จึงไม่แนะนำให้จับจังหวะการลงทุน แต่มุ่งเน้นไปที่การจัดพอร์ตและกระจายการลงทุน
"ราคาหุ้นที่ย่อตัวลงไปมาก เป็นโอกาสให้เข้าทยอยสะสม โดยแนะนำให้ มีหุ้นเวียดนามอยู่ในพอร์ตลงทุน ประมาณ 5-10% ของสัดส่วนพอร์ตหุ้น ขึ้นอยู่กับความสามารถรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน"
แต่อย่างไรก็ดี การลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม ผู้ลงทุนต้องทนความผันผวนระยะสั้นให้ได้ ดังนั้น จึงแนะนำให้ลงทุนยาว ตั้งแต่ 3-5 ปี
บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 4 ต.ค. 2565
หมายเหตุ "ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน"
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1% >>
อ่านต่อภาวะ Technical Recession >>
อ่านต่อECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูง >>
อ่านต่อ