HIGHLIGHTS :
• จีนเปิดประเทศและเทศกาลตรุษจีน หนุนการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายคึกคัก
• คาดเทศกาลตรุษจีน จะช่วยกระตุ้นการบริโภคและเศรษฐกิจของจีนให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
• ท่องเที่ยวไทยช่วงตรุษจีนปีนี้ ฟื้นตัว 48% และเม็ดเงินในการจับจ่ายใช้สอยสะพัดกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท
• การลงทุนในจีนน่าสนใจโดดเด่นกว่าภูมิภาคอื่น จากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และเป้าการเติบโต GDP 5% ในปีนี้
ชาวจีนทั่วโลกมักฉลองเทศกาลตรุษจีนโดยการต้อนรับสิ่งใหม่ๆ จึงทำให้เป็นสัปดาห์ที่มีความคึกคักในการจับจ่ายใช้สอยเป็นพิเศษ มีการเดินทางท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนา ไปฉลองเทศกาลตรุษจีน ซึ่งถือเป็นมหกรรมการเดินทางประจำปี ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้บรรยากาศการบริโภค เศรษฐกิจในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการเดินทางภายในประเทศเร่งตัวขึ้นอีกครั้งหลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 ไปนานเกือบ 3 ปี
คาดเทศกาลตรุษจีน จะช่วยกระตุ้นภาคการบริโภคและเศรษฐกิจจีนให้เติบโต
โดยปกติแล้ว ภาคการบริโภคของจีนจะคิดเป็นสัดส่วนใหญ่ของ GDP ซึ่งในปี 2565 ภาคการบริโภคคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 32.8% ของ GDP ที่ขยายตัวขึ้น 3% อีกทั้ง จีนยังคงเป็นตลาดอุปโภคบริโภคที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกและเป็นตลาดค้าปลีกออนไลน์อันดับ 1 ของโลก ดังนั้น คาดว่าเทศกาลตรุษจีนในปีกระต่ายทองนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคและเศรษฐกิจของจีนให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ การเปิดประเทศที่เร็วกว่าคาดของจีนรวมทั้งช่วงเทศกาลตรุษจีนในปี 2566 นี้ คาดว่าจะเป็นแรงส่งให้ภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจทั้งในไทยรวมถึงประเทศในแถบเอเชียให้ฟื้นตัวสดใส
ตรุษจีนปีนี้ คาดท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว 48% และเม็ดเงินในการจับจ่ายใช้สอยสะพัดกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้คาดการณ์สถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาล ตรุษจีน 2566 ระหว่างวันที่ 19-27 มกราคม 2566 รวม 9 วัน พบว่า บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวจากตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศมีความคึกคักมากขึ้น เทียบกับปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงการระบาดโควิด-19 ทำให้เกิดรายได้รวม อยู่ที่ 21,296 ล้านบาท ฟื้นตัว 48% เทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้มีการคาดการณ์ว่า การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงตรุษจีนปี 2566 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 13.6% กลับมาเป็นบวกในรอบ 4 ปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 45,017.17 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
ดังนั้น ภาพรวมผลของเทศกาลตรุษจีนต่อประเทศไทยคือ ผู้ส่งออกของไทย ผู้ค้าปลีกออนไลน์ข้ามพรมแดน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะได้รับประโยชน์จากกำลังการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของจีน อีกทั้ง การจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคในประเทศเองก็จะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่การซื้อของไหว้ ซื้อของให้ตัวเอง ซื้อของให้คนอื่น การให้อั่งเปา ตลอดจนการเดินทางท่องเที่ยวอีกด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
คำแนะนำการลงทุน
การลงทุนในจีนน่าสนใจโดดเด่น จากธนาคารกลางจีนให้คำมั่นที่จะสนับสนุนภาคเอกชน ล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อยังต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น จึงยังสามารถใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป และคาดว่าทางการจีนจะตั้งเป้าการเติบโต 5% ในปีนี้ รวมทั้งตลาดประเทศไทย ที่ได้รับอานิสงค์จากจีนเปิดประเทศ หนุนภาคบริการและการท่องเที่ยวฟื้นตัว
• แนะนำ K-CHX เน้นลงทุนในตลาด A-shares
• แนะนำ K-CHINA เน้นลงทุนในตลาด H-shares
• แนะนำ K-CCTV สำหรับนักลงทุนที่จำกัดความผันผวน เนื่องจากมีโมเดลควบคุมความเสี่ยง
• แนะนำ K-STAR สำหรับนักลงทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทย
หมายเหตุ ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 25 ม.ค. 2566
สรุปเทรนด์การลงทุน ปี 2023 >>
Clickลงทุน ไทย-เวียดนาม จะไปต่อ...หรือพอก่อน? >>
ClickIMF เผย GDP ไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น จัดพอร์ตอย่างไรดี? >>
Click