เริ่มต้นปีใหม่กันแล้ว เรามาส่องเทรนด์การลงทุนของปี 2023 กันดีกว่า จะได้เตรียมวางแผนการลงทุนกันได้แบบปังๆ ไม่พลาดถึงโอกาสกันเลย
ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2023 จะเป็นอย่างไร
จากการชะลอตัวที่มีมาตั้งแต่ปีก่อน ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงเช่นเดียวกัน จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเพื่อรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อที่มีมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มชะลอตัว จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น และอุปสงค์ที่ชะลอลง ทำให้ตลาดหุ้นจะยังมีความผันผวนในปีนี้
ทำให้เราต้องจับตามอง การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก ทิศทางตัวเลขเงินเฟ้อ ทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปิดประเทศของจีน ไปจนถึงการเลือกตั้งของประเทศไทย
หุ้นจีนกับความหวังจากการเปิดประเทศ
จีนเริ่มมีการผ่อนคลายนโยบายควบคุมโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และจะเปิดประเทศในวันที่ 8 ม.ค. นี้ ซึ่งเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ บวกกับการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของภาคอสังหาฯ และปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เริ่มคลี่คลายลง ไปจนถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ทำให้จีนสามารถใช้นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปได้ สวนทางกับประเทศอื่นๆ
ทำให้ “หุ้นจีน" เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แถมยังมีระดับราคาหุ้นต่ำกว่าตลาดอื่นค่อนข้างมาก นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะทยอยสะสมกองทุนหุ้นจีนรวมถึงกองทุนหุ้นเอเชียที่ได้รับผลประโยชน์จากการเปิดประเทศจีน เพื่อคว้าโอกาสรับผลตอบแทนที่โดดเด่นในระยะยาว
ฝั่งสหรัฐฯและยุโรปยังน่าห่วง รอจังหวะกลับเข้าลงทุน
ยุโรปมีโอกาสจะเกิดเศรษฐกิจถดถอยก่อนประเทศอื่น และประมาณกำไรบริษัทเริ่มเห็นการถูกปรับลงต่อเนื่อง ในขณะที่ Fed ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ โดยยังไม่มีความแน่นอนว่าจะไปจบที่ระดับสูงสุดเท่าไหร่ (terminal rate) แต่คาดว่า Fed จะคงไว้ที่ระดับสูงยาวนานกว่าที่ตลาดคาด
และปัจจุบันนักวิเคราะห์ใน Bloomberg consensus ยังคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัวในช่วงไตรมาส 2/2023 ใครที่อยากจะกลับเข้าไปลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นฝั่งยุโรป คงต้องรอผ่านความผันผวนช่วงไตรมาส 1-2 ไปก่อน เมื่อเริ่มมีสัญญาณดอกเบี้ยใกล้หยุดปรับขึ้นต่อ และความกังวลเศรษฐกิจถดถอยสะท้อนในการปรับคาดการณ์กำไรลงไประดับหนึ่งแล้ว น่าจะเป็นโอกาสที่ดีของการลงทุนอีกครั้ง
ท่องเที่ยวไทยหนุนไทยไปต่อ
โดยรวม บลจ. กสิกรไทย มองเป้าดัชนีหุ้นไทยปลายปี 2023 ที่ 1,800 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลักภายในประเทศมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและการทยอยกลับมาเปิดดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าในการดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยให้ได้จำนวน 20 ล้านคน ในปี 2023 ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 2.38 ล้านล้านบาท บวกกับการทยอยเปิดประเทศจีน ที่ช่วยหนุน GDP ไทยให้ขยายตัว และช่วยลดผลกระทบจากการส่งออกที่ชะลอตัวได้เป็นอย่างดี.
รวมถึงสถานการณ์เงินเฟ้อพ้นจุดวิกฤติแล้ว ทำให้เราไม่ต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงแบบประเทศอื่น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2023 จากภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้คึกคักมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และหากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า จะหนุนให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย