5/20/2022

เอเชียเจอหลายโจทย์ท้าทาย ...เอาไงต่อดีกับตลาดนี้?

​​​

ชาติในเอเชียกำลังเจอกับโจทย์ท้าทายทั้งเงินเฟ้อที่พุ่งสูงกันถ้วนหน้า  ส่วนญี่ปุ่น เงินเยนก็อ่อนค่าหนัก ศรีลังกาเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ จีนต้องล็อกดาวน์บางเมืองเพราะโควิด ซึ่งล้วนส่งผลต่อเศรษฐกิจและการลงทุนทั้งสิ้น ซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามในใจหลายคนว่า

 

สถานการ์แบบนี้ “หุ้นเอเชียยังน่าสนใจ น่าลงทุนอยู่หรือไม่?" วันนี้ KAsset มีคำตอบ…..​

 

ค่าเงินเยนร่วงหนักในรอบ 20 ปี!

เงินเยนอ่อนค่าลงมากจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ในเดือนเมษายน อยู่ที่ 129 เยนต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ และนับจากต้นปีนี้ เงินเยนอ่อนค่าลงแล้ว 11% สาเหตุหลักมาจากการใช้นโยบายการเงินที่ต่างกันสุดขั้วของ Fed ที่เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ส่วนแบงก์ชาติญี่ปุ่นก็กดดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำมาก จนเกิดแรงเทขายเงินเยนไปถือดอลลาร์แทน

 

ค่าเงินเยนอ่อนส่งผลดีต่อธุรกิจส่งออก และบริษัทจดทะเบียนญี่ปุ่นที่มีผลกำไรส่วนใหญ่มาจากตลาดต่างประเทศ โดยตอนนี้นักวิเคราะห์ต่างทยอยปรับประมาณการผลกำไรบริษัทจดทะเบียนญี่ปุ่นดีขึ้น

 

ศรีลังกาเจอวิกฤตเศรษฐกิจหนัก จ่ายหนี้ไม่ไหว!

ส่วนศรีลังกาก็เจอวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 74 ปี ผู้คนเดือดร้อนสุดๆ ข้าวของแพง ขาดแคลนทั้งอาหารและพลังงาน เพราะรัฐบาลบริหารงานผิดพลาดจนตอนนี้ประเทศมีหนี้ท่วมจนจ่ายไม่ไหว แบงก์ชาติต้องลดค่าเงินรูปีศรีลังกามากถึง 15% เพื่อหวังเปิดทางขอเงินกู้จาก IMF และเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ ก็ต้องจับตากันว่า จะมีเอเชียชาติไหนต้องตามรอยศรีลังกาอีกหรือไม่

 

ชาติเอเชียเงินเฟ้อพุ่งถ้วนหน้า

สงครามในยูเครนส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานพุ่งขึ้น มีผลให้อัตราเงินเฟ้อของชาติเอเชียทั้ง จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเกาหลีใต้พุ่งสูงกว่าที่เคยประเมินกันไว้ ส่งผลเสียต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

จีนฝ่าวิกฤตโควิด เดินสู่เป้าหมาย GDP โต 5.5% ปี 2022

จีนยังยึดนโยบาย Dynamic Zero-Covid อย่างเหนียวแน่น ยอมล็อกดาวน์เมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งเพื่อสกัดโควิด สร้างความกังวลทั้งด้านการเติบโตของเศรษฐกิจไม่เฉพาะจีนแต่รวมถึงการค้าโลก และยังเพิ่มแรงกดดันต่อการติดขัดในห่วงโซ่อุปทานด้วย แต่หลายสถาบันก็เชื่อว่าเศรษฐกิจจีนยังจะโตได้ดีตามเป้าของรัฐบาล ท่ามกลางความคาดหวังว่าจะมีมาตรการพยุงเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม

 

World Bank – IMF หั่นเป้า GDP เอเชียปี 2022

จากปัจจัยเสี่ยงทั้งสงครามยูเครน นโยบาย Fed และเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ทำให้ธนาคารโลกปรับลดเป้าคาดการณ์ GDP กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกเหลือ 5% ในปีนี้ แต่ก็เชื่อว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของภูมิภาคนี้ และหากใช้นโยบายที่ถูกต้องก็จะทำให้ฝ่ามรสุมครั้งนี้ไปได้สำเร็จ ส่วน IMF หั่นคาดการณ์ GDP ชาติกำลังพัฒนาในเอเชียเหลือ 5.4% จากปัจจัยสงครามยูเครนและโควิดในจีน

 

เมื่อถามว่า หุ้นเอเชียยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่? และนี่คือโอกาสที่ควรลงทุนหรือเปล่า?

ในภาพรวม บลจ.กสิกรไทยยังมีมุมมองบวกต่อหุ้นเอเชีย เพราะเห็นว่าเป็นจังหวะตลาดปรับฐาน หุ้นมีราคาถูก

 

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนระยะยาว และยังมีสัดส่วนหุ้นเอเชียในพอร์ตการลงทุนน้อย


ตลาดหุ้นเวียดนาม :นี่เป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นกลุ่มเอเชีย โดยกองทุนที่แนะนำ คือ กองทุนหุ้นเวียดนาม K-VIETNAM ซึ่งตอนนี้เวียดนามโดดเด่นทั้งแง่ของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น การปรับฐานในระยะนี้เป็นโอกาสทยอยเข้าสะสม >>คลิกรายละเอียด​ 

 

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น : อีกกองทุนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ กองทุน K-JP ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น ที่ราคาหุ้นตอนนี้ถือว่าต่ำกว่าหุ้นในประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ และทิศทางนโยบายการเงินยังเป็นแบบผ่อนคลาย ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น >>คลิกรายละเอียด 

 

ตลาดหุ้นจีน :ขณะที่ราคาหุ้นจีนก็ปรับตัวลงมาเยอะจนอยู่ในระดับต่ำมาก และน่าจะเห็นตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ดีเมื่อรัฐบาลส่งสัญญาณพร้อมทำทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ใครสนใจหุ้นจีน แนะนำกองทุน K-CHINA ที่ลงทุนหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก >>คลิกรายละเอียด

 

ตลาดหุ้นไทย :ส่วนใครชอบลงทุนในประเทศ แนะนำ กองทุน K-STAR ลงทุนหุ้นไทยที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดีในระยะยาว และมีการจับจังหวะซื้อขายทำกำไร >>คลิกรายละเอียด 

 

หมายเหตุ "ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน"

 

บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย 

ข้อมูล ณ วันที่ 11 พ.ค. 2565




Yes
5/20/2022