7/6/2023

ลงทุนแบบสบายใจ ไร้กังวล …เริ่มต้นได้ที่ “กองทุนผสม”​

จากสถานการณ์การลงทุนปี 2023 ที่มีความไม่แน่นอนสูง ทั้งในส่วนของสถานการณ์ต่อเนื่องจากปีก่อน เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด หรือความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา จนส่งผลให้เกิดความกังวลในหลายประเทศ 

หรือแม้แต่ความกังวลจากสถานการณ์หนี้ทั่วโลก ไตรมาสแรก ปี 2023 ที่พุ่งขึ้นทำสถิติเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 305 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1 หมื่นล้านล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากธนาคารกลางทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอเงินเฟ้อ จึงทำให้ต้นทุนชำระหนี้ของประเทศต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

ส่วนประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเช่นกัน โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เผยข้อมูลว่า การส่งออกของไทยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ติดลบกว่า 7.6% ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 

เมื่อเศรษฐกิจผันผวนจนคาดเดาได้ยาก การทุ่มเงินลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงอย่างเดียว อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก หรือหากจะถือเงินสดเอาไว้ ก็คงพลาดโอกาสลงทุนไปอย่างน่าเสียดาย  

“ดังนั้น กองทุนผสม จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะแก่การลงทุน …ในเวลานี้”

โดยข้อดีของกองทุนผสม คือ

1. มีความผันผวนน้อยกว่าการลงทุนกองทุนใดกองทุนหนึ่งเพียงอย่างเดียว​
เพราะกองทุนผสมมีการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น เงินฝาก ตราสารหนี้ หรือหุ้น จึงช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังนั้น ในช่วงที่ภาวะตลาดส่งผลลบต่อสินทรัพย์แต่ละประเภทไม่เท่ากัน เช่น ตลาดหุ้นหุ้นลงหนัก กองทุนผสมที่มีการกระจายความเสี่ยงอาจไม่ได้ติดลบมากนัก

2. ลงทุนง่าย ไม่ต้องจับจังหวะเอง​
นักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามตลาด หรือไม่มั่นใจในการจับจังหวะลงทุนด้วยตัวเอง สามารถลงทุนผ่านกองทุนผสมได้ เพราะกองทุนจะมีการปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ โดยผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญ ตามความเหมาะสมของการลงทุนในแต่ละช่วงเวลา และถ้าใครยังไม่มีกองทุนผสมในพอร์ต

ขอแนะนำกองทุน “K-GINCOME” ลงทุนกองทุนเดียวจบ ครบทุกสินทรัพย์​
มีนโยบายกระจายการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 3,000 ตัว* ไม่ต้องจัดพอร์ตเอง เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ ในทุกสภาวะตลาด เพื่อโอกาสทํากําไรและลดความผันผวนในระยะยาว ผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Investment Funds - Global Income Fund, Class I (mth) - USD (hedged) (*ณ 31 พ.ค. 2566) 
 
โดยกองทุน K-GINCOME มีความเสี่ยงปานกลาง เหมาะกับคนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง และไม่มีเวลาปรับพอร์ตหรือจับจังหวะตลาดด้วยตนเองสามารถเข้าลงทุนได้ตลอด เริ่มต้นลงทุนผ่าน K-My Funds เพียง 500 บาท 

ที่สำคัญคือ นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนกองทุน K-GINCOME​ ได้ 4 รูปแบบตามเป้าหมายการลงทุน คือ
1)  K-GINCOME-A(R) แบบรับซื้อคืนอัตโนมัติ เพื่อโอกาสรับรายได้ทุกเดือน จากการรับซื้อคืนอัตโนมัติ (Auto Redemption) ที่ไม่เสียภาษี โดยกองทุนจ่ายผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องทุกเดือน  
2)  K-GINCOME-A(A) แบบสะสมมูลค่า เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนระยะยาว
3)  K-GINCOME-SSF เพื่อการออม รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และยังมีโอกาสรับเงินปันผลระหว่างลงทุนไม่เกิน 4 ครั้ง/ต่อปี 
4)  K-GINCOME-RMF เพื่อการเลี้ยงชีพ รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โอกาสสร้างพอร์ตเกษียณเติบโต 

ดังนั้นแล้ว หากต้องการเลือกลงทุนในกองทุนรวมสักกองที่สามารถฝ่าทุกสถานการณ์ได้ “กองทุนผสม” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่พร้อมเป็นเกราะป้องกันให้กับพอร์ตได้ดี

หมายเหตุ *ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้ยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com​

บทความโดย คุณชุณหวรรณ ขัตตินานนท์ ผู้บริหารกองทุน ฝ่ายจัดการกองทุนทางเลือก บลจ.กสิกรไทย 
ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2023​

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
​เทคนิคแบ่งโบนัสก้อนใหญ่ ...ให้ดีต่อใจระยาว​​ >>Click
รวม 5 วิธีเริ่มวางแผนการเงิน ฉบับคนรุ่นใหม่ >>Click​
LTF ครบกำหนด แต่ยังมีอยู่ในพอร์ต ..ทำอย่างไร >>Click​
5 เทคนิค สร้างเงินล้านผ่าน​ PVD >>Click​
 


Yes
7/6/2023
0