8/23/2023

เศรษฐกิจไทยโตช้ากว่าคาด GDP ไตรมาส 2/2566 โตเพียง +1.8%

HIGHLIGHTS :
• GDP ไทย ไตรมาส 2/2566 ขยายตัวต่ำกว่าคาด โตเพียง +1.8% ผลจากการส่งออกที่อ่อนแอเป็นหลัก
• การบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยว จะเป็นปัจจัยหลักหนุนเศรษฐกิจไทยปีนี้
• KAsset ยังคงเป้า SET Index สิ้นปีนี้ที่ 1,650 จุด ปัจจัยทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้
• คงคำแนะนำเป็น Neutral ทยอยสะสมได้ แนะนำสัดส่วน 5-10% ของพอร์ตการลงทุน  


GDP ไทย ไตรมาส 2/2566 ขยายตัวต่ำกว่าคาด  

สภาพัฒน์เปิดเผย GDP ไทยไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 1.8% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะโต 3% (เทียบรายปี) และชะลอลงจาก 2.6% ในไตรมาสที่ 1/2566 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัวได้ 2.2% โดยเป็นผลมาจากการส่งออกเป็นหลัก ที่ในไตรมาส 2 หดตัวถึง 5.7% 

นอกจากนี้ สภาพัฒน์ยังปรับลดประมาณการ GDP ในปีนี้ลงเหลือ 2.5-3.0% (จากเดิม 2.7-3.7%) โดยมีปัจจัยหลักมาจากการหดตัวอย่างต่อเนื่องถึง 3 ไตรมาส ของการส่งออกไทย ซึ่งมีผลมาจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ โดยสภาพัฒน์ยังได้ปรับลดประมาณการส่งออกไทยในปีนี้เป็น -1.8% จากเดิมคาดไว้ที่ -1.6% ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ มีการปรับประมาณการลงมาเช่นเดียวกันที่ 1.7-2.2% (จากเดิม 2.5-3.5%) เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง

การบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยว จะเป็นปัจจัยหลักหนุนเศรษฐกิจไทยปีนี้  ​

สภาพัฒน์ มองเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีแรงส่งจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยในปีนี้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 28 ล้านคนเท่ากับประมาณการเดิม อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในปีนี้ ได้แก่ 
1.เงื่อนไขทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศทางเศรษฐกิจ 
2.เศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากกว่าคาด และความผันผวนในตลาดการเงินโลก 
3.ภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจ ที่ยังอยู่ในระดับสูง ท่ามกลางภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และ 
4.ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตภาคเกษตร

มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นไทย  ​

การชะลอตัวลงมากกว่าคาดของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2  นับเป็นความท้าทายของรัฐบาลใหม่ในการเร่งผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี ไปจนถึงปีหน้า ท่ามกลางแรงกดดันหากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกว่าคาด และเศรษฐกิจจีนยังไม่กลับมาฟื้นตัวได้เต็มที่ ประกอบกับแนวโน้มเงินเฟ้อของไทยในระยะถัดไปที่อาจเร่งตัวขึ้น ซึ่งจะกดดันการบริโภคภาคเอกชน

ทั้งนี้ KAsset ยังคงเป้า SET Index สิ้นปีนี้ที่ 1,650 จุด จากปัจจัยทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และคาดว่ารัฐบาลที่เข้ามาใหม่จะให้ความสำคัญกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทย จึงคาดหวังที่จะเห็นมาตรการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเน้นที่การเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน การบริโภคภายในประเทศ การส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศ คงคำแนะนำเป็น Neutral ทยอยสะสมได้ แนะนำสัดส่วน 5-10% ของพอร์ตการลงทุน​

หมายเหตุ ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com

บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย 
ข้อมูล ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2023

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
หุ้น USA กำลังกลับมา? จากตัวเลขเศรษฐกิจ >>Click​
เมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ย ...แต่ไม่ชัดว่าเป็นครั้งสุดท้าย​ >>Click
สรุปสัญญาณ จากประชุม Politburo ของจีน​​ >>Click​
GDP จีนไตรมาสแรกขยายตัว 4.5% สูงกว่าคาด >>Click​​
​​

Yes
8/23/2023
0