12/1/2022

คุณรู้หรือไม่? โอนเงิน PVD ไป RMF ได้ เมื่อออกจากงาน 

​​​​knowledge-investor-knowhow-tranfer-pvd-to-rmf-free.jpg

กองทุนสำรองสำรองเลี้ยงชีพ หรือ PVD เป็นหนึ่งสวัสดิการของมนุษย์เงินเดือน เพื่อเป็นเงินไว้ใช้หลังเกษียณ แต่ถ้าเราย้ายที่ทำงานใหม่ หรือลาออกไปทำงานอิสระ เราก็จำเป็นต้องลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปด้วย และหากการลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก่อนอายุ 55 ปีหรือตอนที่ยังทำงานไม่ครบ 5 ปีนั้น จะต้องเอาเงินที่ได้ไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย

ทำไงดี? กับเงิน PVD เมื่อย้ายงาน หรือลาออกไปเป็นฟรีแลนซ์ 
มนุษย์เงินเดือนไม่ต้องตกใจ หากที่ทำงานใหม่ ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เหมือนที่ทำงานเดิม คำถามคือ หากเราต้องนำเงินออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ จะต้องเสียภาษีเงินได้ !!

“ดังนั้น การโอนเงินจาก PVD ไป RMF จะช่วยให้เราออมเงินเพื่อเกษียณได้อย่างต่อเนื่อง และประหยัดภาษี เพราะไม่ต้องนำเงินออกจาก PVD ก่อนกำหนดอีกด้วย”

ทั้งนี้ ถ้าไม่อยากเสียภาษี ปัจจุบันก็มีทางเลือก โดยสำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีการปรับปรุงพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 ให้สามารถโอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ไปอยู่ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ได้แล้ว 

ข้อดีของการโอนเงินจาก PVD ไป RMF
การโอนเงินจาก PVD ไป RMF ช่วยให้เราไม่ต้องเสียภาษีเพราะไม่ต้องนำเงินออกจาก PVD ก่อนอายุเกษียณ  และสามารถนำมาบริหารพอร์ตการลงทุนได้ด้วยตนเอง

เนื่องจากการโอนเงินจาก PVD ไป RMF มีหลักการเหมือนกับการคงเงินไว้ใน PVD คือ สามารถนับอายุสมาชิกต่อเนื่องได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อหน่วยลงทุนเพิ่ม ซึ่งนับเฉพาะ RMF ที่เราเลือกรับโอนเงินมาจาก PVD เท่านั้น ไม่ได้รวมถึง RMF ที่เราซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีทั่วไป 

หากนำเงินออกจาก กองทุน PVD จะต้องโดนคำนวณรายได้ เพื่อเสียภาษีอย่างไร?
ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่า เงินกองทุนฯ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้ 
1. เงินสะสม คือ เงินที่เราหักจากเงินเดือนเราทุกเดือน
2. เงินสมทบ คือ เงินที่เราได้จากนายจ้างทุกเดือน
3. ผลประโยชน์เงินสะสม คือ เงินที่งอกเงยจากการลงทุนของเงินสะสม
4. ผลประโยชน์เงินสมทบ คือ เงินที่งอกเงยจากการลงทุนของเงินสมทบ

ส่วนที่ ไม่ต้องนำมาเสียภาษี นั่นคือ “เงินสะสม” (ก้อนที่ 1)  เพราะเป็นส่วนที่เราได้สะสมเข้าเองจากเงินเดือนที่เรานำไป เสียภาษีแล้ว แต่ส่วนอื่น ๆ คือ “เงินสมทบ ผลประโยชน์เงินสะสม และ ผลประโยชน์เงินสมทบ” (ก้อนที่ 2) นั้น จะต้องนำมาคำนวณภาษี ซึ่งมีเงื่อนไขในการคำนวณที่แตกต่างกันดังนี้ 

กรณีที่ 1 หากมีระยะเวลาทำงานไม่ถึง 5 ปี 
เงินก้อนที่ 2 ทั้งหมด ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เช่นเดียวกับเงินเดือนที่เราได้รับทั้งจำนวน

กรณีที่ 2 หากมีระยะเวลาการทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปี 
เงินก้อนที่ 2 จะได้รับสิทธิแยกคำนวณภาษีเงินได้ ซึ่งทำให้เสียภาษีน้อยลง โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายในส่วนแรก (คำนวณโดยใช้ 7,000 x จำนวนปีที่ทำงาน หลังจากนั้นเหลือเท่าไร ให้หักค่าใช้จ่ายได้อีกครึ่งหนึ่ง) และจึงค่อยนำมาคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อไป
        
ข้อควรจำ : เงินที่โอนจาก PVD มา RMF นั้น จะไม่สามารถนำมารวมคำนวณยอดเงินลงทุนสูงสุดใน RMF ของปีภาษีนั้นได้  เพราะเงินที่โอนจาก PVD มา RMF ได้ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีไปแล้ว

ใครบ้าง? ที่สามารถโอนเงินจาก PVD ไป RMF : ผู้ที่สามารถโอนเงินจาก PVD ไป RMF ได้ เช่น 
(1) ลูกจ้างที่ออกจากงาน : ไม่ว่าจะเป็นการลาออกเพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือการออกจากงานเพราะสิ้นสุดสัญญาจ้าง 
(2) ลูกจ้างที่เปลี่ยนย้ายงาน : โดยที่นายจ้างใหม่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 
(3) นายจ้างเลิกกิจการหรือยกเลิกการจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 
(4) ไม่สามารถคงเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของที่ทำงานเดิมต่อได้ เพราะหมดระยะเวลาคงเงิน  

โอนเงินจาก PVD ไป RMF มีขั้นตอนอย่างไร?
สำหรับขั้นตอนการโอนเงินจาก PVD ไป RMF ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงติดต่อกับบริษัทจัดการกองทุน เพื่อแจ้งความประสงค์ว่าจะโอนเงินจาก PVD มา RMF โดยต้องเป็น “RMF for PVD” คือมีการระบุในหนังสือชี้ชวน (Fact Sheet) ว่า “รองรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” จากนั้นก็นำเอกสารจากบริษัทจัดการกองทุนมาแจ้งความประสงค์ต่อนายจ้างภายใน 30 วันนับจากวันสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง

โดยสามารถโอนเงินจาก PVD ไป RMF ได้ทั้งจำนวน ไม่มีค่าธรรมเนียมในการโอนย้าย และไม่ต้องเสียค่ารักษาสมาชิกรายปีแบบ PVD อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อโอนเงินจาก PVD ไป RMF แล้ว เราก็สามารถสับเปลี่ยนไปยัง RMF กองทุนอื่นได้ แต่ต้องเป็น RMF for PVD ด้วยกัน 
 
จะเห็นได้ว่า การที่เราสามารถโอนเงินจาก PVD ไป RMF ได้นั้นช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุน ไม่ต้องเสียภาษีเพราะนำเงินออกจาก PVD เร็วกว่ากำหนด ที่สำคัญ ยิ่งนำเงินออกมาเร็ว ยิ่งมีโอกาสที่เงินจะหมดได้เร็ว 

ดังนั้น ถ้าจะต้องออกจากงาน หรือสิ้นสุดการเป็นสมาชิก PVD อย่าเพิ่งรีบนำเงิน PVD ออกมา เราควรโยกไป RMF ก่อน เพื่อให้เงินก้อนนี้เป็นเงินใช้จ่ายในยามเกษียณเพื่อชีวิตที่สุขสบาย

หากสนใจย้ายจาก PVD ไป RMF จากบลจ.กสิกรไทย สามารถดูรายละ​เอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>Click​


บทความโดย บลจ.กสิกรไทย 
ข้อมูล ณ วันที่ 1 ธ.ค. 2565

คำเตือน
- ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
- กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
ลงทุนให้ถึงเป้าหมายเงินล้าน >> อ่านต่อ​
วางแผนภาษี มีแค่ PVD พอไม๊ >> อ่านต่อ​
ลงทุน SAVE ภาษีกันดีกว่า >> อ่านต่อ
ทำไมลงทุนเร็ว ถึงดีกว่าเริ่มลงทุนช้า​ >> อ่านต่อ​



​​​​​
Yes
12/1/2022