HIGHLIGHTS:
• Zhongzhi Enterprise Group (จงจื่อ) ธนาคารเงาที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของจีน ประกาศล้มละลาย
• บลจ.กสิกรไทย ไม่มีการลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมใน Zhongzhi Enterprise Group แต่อย่างใด
• ทั้งนี้ KAsset มองเป็นประเด็นที่ตลาดรับรู้มาสักระยะแล้ว น่าจะมีผลเฉพาะเชิง sentiment และโอกาสที่จะลุกลามเป็นความเสี่ยงวงกว้างในระบบน่าจะมีจำกัด
• แนะนำให้จับตา 3 ประเด็นเสี่ยงของจีนอย่างใกล้ชิด คือ 1. ภาคอสังหาริมทรัพย์ 2. ระบบธนาคารเงา และ 3. หนี้รัฐบาลท้องถิ่น
• อนึ่ง KAsset ยังคงมุมมองตลาดหุ้นจีนเป็น Neutral แนะนำยังควรมีติดพอร์ต แต่ในสัดส่วนที่จำกัดไม่เกิน 10-15% ของพอร์ตการลงทุน
Zhongzhi Enterprise Group ประกาศล้มละลาย
Zhongzhi Enterprise Group หรือจงจื่อ ธนาคารเงาที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของจีน และเป็นหนึ่งในผู้จัดการความมั่งคั่งส่วนบุคคล (Private Wealth Managers) ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ประกาศล้มละลาย เนื่องจากมีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์ถึง 2 เท่า
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปล่อยสินเชื่อให้ภาคอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก โดยบริษัทมีหนี้สินประมาณ 4.2 – 4.6 แสนล้านหยวน (ราว 2 – 2.2 ล้านล้านบาท) หรือมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ 2 แสนล้านหยวน (ราว 9.8 แสนล้านบาท)
"ทั้งนี้ เมื่อเดือน พ.ย. 2023 เริ่มมีข่าวว่า ทางการจีนได้เริ่มการสอบสวนบริษัทจงจื่อ หลังจากที่บริษัทประกาศว่า "มีโอกาสล้มละลายสูง" โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปล่อยสินเชื่อ ให้ภาคอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก"
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องสงสัยว่าคนภายในจงจื่อก่ออาชญากรรมผิดกฎหมายกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนหนึ่ง รวมถึงบุคคลรายหนึ่งที่มีนามสกุล "เซี่ย" ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับผู้ก่อตั้งบริษัทที่ล่วงลับไปแล้ว
มุมมองจากทีมผู้จัดการกองทุน
ประเด็นธนาคารเงาของจีนถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนมาสักระยะแล้ว และเป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้มาสักระยะตั้งแต่มีบริษัทลูกของจงจื่อผิดนัดชำระหนี้ จึงคาดว่าจะมีผลเฉพาะเชิง sentiment เท่านั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ลงทุนกับธนาคารจงจื่อส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม High Net Worth ที่แบ่งเงินมาลงทุนใน Wealth Management Product และ Private Credit Market เท่านั้น ไม่ได้ลงทุนผ่านมาจากระบบธนาคาร ทำให้โอกาสที่จะเป็นลุกลามเป็นปัญหาในระบบ (Systematic Risk) จึงน่าจะมีจำกัด
มุมมองการลงทุน ในตลาดหุ้นจีน
"KAsset ยังคงมุมมอง Neutral ต่อตลาดหุ้นจีน"
แนวโน้มเศรษฐกิจจีนในปี 2024 จะขึ้นอยู่กับ การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และ ขนาดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเป็นหลัก โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและภาคธุรกิจ คาดว่ารัฐบาลจีนยังใช้นโยบายสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี มองว่ามาตรการดังกล่าวยังคงเน้นแบบสมดุล มากกว่าจะเป็นมาตรการขนาดใหญ่ จึงน่าจะเห็นการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ ยังต้องจับตา 3 ประเด็นเสี่ยงของจีนอย่างใกล้ชิด คือ
1. ภาคอสังหาริมทรัพย์
2. ระบบธนาคารเงา
3. หนี้รัฐบาลท้องถิ่น
"อย่างไรก็ดี KAsset ยังคงมองว่า นักลงทุนยังคงควรมีหุ้นจีนติดพอร์ตอยู่ แต่ในสัดส่วนที่จำกัด ประมาณ 10-15% ของพอร์ตการลงทุน"
กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com
บทความโดย : KAsset Investment Strategy
ข้อมูล ณ วันที่ 8 มกราคม 2024
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
อัปเดตวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน …เกิดอะไรขึ้น? >>
Clickเมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ย ...แต่ไม่ชัดว่าเป็นครั้งสุดท้าย >>
Clickสรุปสัญญาณ จากประชุม Politburo ของจีน >>
ClickGDP จีนไตรมาสแรกขยายตัว 4.5% สูงกว่าคาด >>
Click