วันนี้ KAsset ได้รวบรวม 3 กลุ่มธุรกิจจีน ที่น่าสนใจและน่าลงทุนในช่วงนี้ สรุปรวมมาให้นักลงทุนได้ใช้ตัดสินใจลงทุนกัน ดังนี้
1. ธุรกิจ Consumer Staples & Discretionary
ด้วยความที่ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรเยอะมากที่สุดในโลก ทำให้กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และสินค้าฟุ่มเฟือย กลายเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว และยังได้รับประโยชน์หลังการเปิดประเทศ เนื่องจากความต้องการจับจ่ายใช้สอยของคนจีนที่เพิ่มขึ้นมากหลังเปิดประเทศ และในปีนี้ทางรัฐบาลจีนได้ให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟู และกระตุ้นภาคการอุปโภคบริโภคในฐานะที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
2. ธุรกิจ Industrials
การกลับมาผลิตสินค้าอีกครั้งหลังจากเปิดประเทศ รวมถึงนโยบายการลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เป็นส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นให้กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมกลับมายืนได้อีกครั้ง
3. ธุรกิจ Healthcare
ทางการจีนยังคงให้ความสำคัญกับปัญหาของโควิด-19 และสุขภาพของประชาชน ทำให้ธุรกิจ Healthcare ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของกลุ่ม Healthcare จากการเติบโตของรายได้จากภายใน และรายได้ส่วนเพิ่มจากโควิด 19 ที่เป็นโรคประจำถิ่น
การที่จีนได้ยกเลิกข้อจำกัดโควิด 19 ในช่วงปลายปี 2565 จึงถือเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับเศรษฐกิจของจีน ที่กำลังทยอยปรับตัวไปในทางบวกมากขึ้น ทั้งยังเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในจีนอีกด้วย
คำแนะนำการลงทุน
KAsset ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อธีมการลงทุนที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีน โดยตลาดหุ้นจีนน่าสนใจโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค ทั้งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจชัดเจน นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ และระดับราคาน่าสนใจ
อย่างไรก็ดี ก็ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่อาจสร้างความกังวลให้ตลาดเป็นระยะๆ ทั้งนี้ กองทุนที่ลงทุนในประเทศจีน ในกลุ่มธุรกิจที่มาแรง ได้แก่
กองทุน K-CHX :
เลือกลงทุนหุ้นจีนในตลาด A-shares โดยอ้างอิงการลงทุนตามดัชนี FTSE China A50 คัดหุ้นขนาดใหญ่ที่สุด 50 ตัว
กองทุน K-CHINA และสำหรับกระจายการลงทุนลดหย่อนภาษี ตั้งแต่ต้นปี แนะนำเลือก K-CHINA-SSF และ RMF :
เลือกลงทุนหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก (All China) เน้นหุ้นอนาคตดีในกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ (New Economy)