2/24/2023

ส่องเศรษฐกิจจีนหลังเปิดประเทศ ...ลงทุนยังไงให้ปัง

​​​​​​
HIGHLIGHTS :
• ตั้งแต่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนตัดสินใจเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ หลังล็อกดาวน์ประเทศกว่า 3 ปีเต็ม
• จากรายงาน CNBC ระบุว่า การเปิดประเทศเร็วกว่าคาดการณ์ของจีน จะส่งผลให้ประสบปัญหาแรงงานขาดแคลน และกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในระยะสั้น แต่ทั้งนี้ จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจจีนในระยะยาวเช่นกัน​​
• กลุ่มธุรกิจในจีนที่จะกลับมาฟื้นตัวตามแนวทางการเปิดประเทศ ได้แก่ ธุรกิจ Consumer Staples & Discretionary, Industrials และ Healthcare
• KAsset ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อธีมการลงทุนที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีน แต่ก็มีปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่อาจสร้างความกังวลให้ตลาดเป็นระยะๆ​

การเปิดประเทศของจีน เป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะประเทศจีนเปรียบเสมือนหัวเรือใหญ่ทางการค้า ที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโลก โดยหลายฝ่ายต่างคาดการณ์กันว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ภายหลังจากที่จีนเปิดประเทศ อีกทั้งเศรษฐกิจยังฟื้นตัวจากปัจจัยการคลายนโยบาย Zero-COVID

แต่ในขณะเดียวกันก็มีปัจจัยหลายด้านที่ทำให้จีนยังดูน่ากังวลอยู่ โดยเฉพาะอัตราการติดเชื้อของชาวจีนที่ยังมีอยู่ในระดับสูง ทำให้หลายประเทศทั่วโลกต่างมีมาตรการด้านสาธารณสุข คัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนอย่างเข้มงวด

"ตามการรายงานของ CNBC ยังระบุว่า การเปิดประเทศของจีนเกิดขึ้นเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ จะส่งผลให้จีนประสบปัญหาแรงงานขาดแคลน และอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในระยะสั้น แต่ทั้งนี้จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจจีนในระยะยาว"

China opent and trend investment 2.jpg

ถึงตรงนี้แล้ว อาจกล่าวได้ว่าประเทศจีนกำลังเปิดประตูสู่โอกาสทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่นักลงทุนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด​ เมื่อความเปลี่ยนแปลงจากการตัดสินใจเปิดประเทศเกิดขึ้นแล้ว จะมีกลุ่มธุรกิจไหนในจีนที่จะกลับมาฟื้นตัวได้บ้าง ? และธุรกิจไหนที่จะมาแรงเป็นพิเศษ? 

วันนี้ KAsset ได้รวบรวม 3 กลุ่มธุรกิจจีน ที่น่าสนใจและน่าลงทุนในช่วงนี้ สรุปรวมมาให้นักลงทุนได้ใช้ตัดสินใจลงทุนกัน ดังนี้  

1. ธุรกิจ Consumer Staples & Discretionary 
ด้วยความที่ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรเยอะมากที่สุดในโลก ทำให้กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และสินค้าฟุ่มเฟือย กลายเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว และยังได้รับประโยชน์หลังการเปิดประเทศ เนื่องจากความต้องการจับจ่ายใช้สอยของคนจีนที่เพิ่มขึ้นมากหลังเปิดประเทศ และในปีนี้ทางรัฐบาลจีนได้ให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟู และกระตุ้นภาคการอุปโภคบริโภคในฐานะที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

2. ธุรกิจ Industrials 
การกลับมาผลิตสินค้าอีกครั้งหลังจากเปิดประเทศ รวมถึงนโยบายการลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เป็นส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นให้กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมกลับมายืนได้อีกครั้ง

3. ธุรกิจ Healthcare 
ทางการจีนยังคงให้ความสำคัญกับปัญหาของโควิด-19 และสุขภาพของประชาชน ทำให้ธุรกิจ Healthcare ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของกลุ่ม Healthcare จากการเติบโตของรายได้จากภายใน และรายได้ส่วนเพิ่มจากโควิด 19 ที่เป็นโรคประจำถิ่น

การที่จีนได้ยกเลิกข้อจำกัดโควิด 19 ในช่วงปลายปี 2565 จึงถือเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับเศรษฐกิจของจีน ที่กำลังทยอยปรับตัวไปในทางบวกมากขึ้น ทั้งยังเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในจีนอีกด้วย 

  
คำแนะนำการลงทุน
KAsset ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อธีมการลงทุนที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีน โดยตลาดหุ้นจีนน่าสนใจโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค ทั้งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจชัดเจน นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ และระดับราคาน่าสนใจ 

อย่างไรก็ดี ก็ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่อาจสร้างความกังวลให้ตลาดเป็นระยะๆ ทั้งนี้ กองทุนที่ลงทุนในประเทศจีน ในกลุ่มธุรกิจที่มาแรง ได้แก่

กองทุน K-CHX : 
เลือกลงทุนหุ้นจีนในตลาด A-shares โดยอ้างอิงการลงทุนตามดัชนี FTSE China A50 คัดหุ้นขนาดใหญ่ที่สุด 50 ตัว

กองทุน K-CHINA  และสำหรับกระจายการลงทุนลดหย่อนภาษี ตั้งแต่ต้นปี แนะนำเลือก K-CHINA-SSF และ RMF : 
เลือกลงทุนหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก (All China) เน้นหุ้นอนาคตดีในกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ (New Economy)

หมายเหตุ ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย 
ข้อมูล ณ วันที่ 24 ก.พ. 2566


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
​เลข CPI ปรับตัวสูง กระทบพอร์ตหรือไม่? >>Click
​​สินทรัพย์เสี่ยงตอบรับ หลังประชุม Fed >>Click

ข่าวดีรับตรุษจีน เศรษฐกิจเติบโตสดใส >>Click



Yes
2/24/2023