11/3/2023

Fed คงดอกเบี้ยตามคาด!! ในการประชุมเดือน พ.ย. พร้อมส่งสัญญาณใกล้จบการขึ้นดอกเบี้ย

HIGHLIGHTS:
• Fed คงดอกเบี้ยตามคาด ที่ระดับ 5.25-5.50%
• KAsset มองว่ายังมีความเป็นไปได้ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนธ.ค.
• ช่วงที่ตลาดปรับฐานลงเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดว่ากำไรยังเติบโตได้ 12% ในปี 2567

Fed คงดอกเบี้ยตามคาด 
Fed มติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้ง นับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ส่งผลให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25% ขณะเดียวกัน จะยังคงแผนปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ไว้เช่นเดิม​

แถลงการณ์ของ Fed มองเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่ง 
จากแถลงการณ์ของ Fed ยังส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 อย่างไรก็ดี Fed ยอมรับว่าภาวะการเงินที่มีความตึงตัวมากขึ้นนั้นได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน

นอกจากนี้ นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า การฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงนั้น จำเป็นต้องทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่การดำเนินการดังกล่าวก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน ส่วนในเรื่องของแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น นายพาวเวลย้ำว่า Fed ยังไม่ได้เริ่มพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะยังไม่พิจารณาเรื่องนี้จนกว่า Fed จะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้

มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ และคำแนะนำการลงทุน 

"ยังคงมีมุมมองต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็น Slightly Positive" 

โดยการคงอัตราดอกเบี้ยของ Fed นั้นเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด และจากท่าทีของประธาน Fed หลังการประชุม ส่งผลให้ล่าสุดตลาด (CME Fed Watch Tool) ให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ ลดลงมาที่ 20.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ 31.4% 

โดย KAsset มองว่ายังมีความเป็นไปได้ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค. ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ อย่างทิศทางอัตราเงินเฟ้อและตัวเลขการจ้างงานในระยะข้างหน้า 

แต่จากการประชุมครั้งล่าสุดสะท้อนว่าวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ใกล้สิ้นสุดแล้ว และจะทำให้ Bond Yield 10 ปี อ่อนตัวลง เป็นสัญญาณบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง 

นอกจากนี้ จากการประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2566 ของสหรัฐฯ ที่ทยอยออกมาในช่วงนี้ โดยประกาศออกมาแล้วประมาณ 60% ของจำนวนบริษัททั้งหมดในดัชนี S&P500 พบว่า ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาดต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Earnings ที่ออกมาดีกว่าคาดมากขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 

" ทั้งนี้ จึงมองว่าช่วงที่ตลาดปรับฐานลง เป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดว่ากำไรยังเติบโตได้ 12% ในปี 2567"

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com

บทความโดย 
บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย​​​
ข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2023

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
อัปเดตวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน …เกิดอะไรขึ้น?​ >>Click
เมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ย ...แต่ไม่ชัดว่าเป็นครั้งสุดท้าย​ >>Click
สรุปสัญญาณ จากประชุม Politburo ของจีน​​ >>Click​
GDP จีนไตรมาสแรกขยายตัว 4.5% สูงกว่าคาด >>Click​​

K-PLAN ,K-PLAN2 , K-PLAN3, K-SF,K-SF-A,K-SF-SSF, K-GINCOME, K-GINCOME-A(A), K-GINCOME-A(R), K-GINCOME-SSF, K-GINCOME-RMF, กองทุนแนะนำ, กองทุนผลตอบแทนดี, กองทุนรวม, กองทุนรวม ตัวไหนดี , กองทุน กสิกร​​




Yes
11/3/2023
0