HIGHLIGHTS:
• Fitch ปรับลด Credit Rating ระยะยาวของสหรัฐฯ จากระดับ AAA เหลือ AA+
• รมต.คลังสหรัฐฯ เจเน็ต เยลเลน ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นการใช้เหตุผลเรื่องเพดานหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นไปแล้วช่วงต้นปี
• KAsset ไม่ได้เปลี่ยนมุมมองการลงทุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯและตราสารหนี้โลก (Slightly Positive)
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch ปรับลด Credit Rating ระยะยาวของสหรัฐฯ
Fitch ปรับลด Credit Rating ระยะยาวของสหรัฐฯ จากระดับ AAA เหลือ AA+ โดยอ้างถึงภาวะการถดถอยทางการคลังที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า รวมถึงปัญหาภาระหนี้ภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือมีขึ้นหลังจากสภาอเมริกันสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายเพดานหนี้ภาครัฐ เมื่อเดือนมิ.ย. หลังจากการหารือยืดเยื้อมาหลายเดือน ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เจเน็ต เยลเลน ได้แสดงท่าทีที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐฯในครั้งนี้ และระบุในแถลงการณ์ว่า “กระทำโดยลำพังและอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลเก่า”
ตลาดหุ้นเอเชียปิดร่วง รับข่าวดังกล่าว
ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น (NIKKEI) -2.3% ตลาดหุ้นฮ่องกง (HSI) -2.3% ตลาดหุ้นอินเดีย (SENSEX) -1.1% ตลาดหุ้นจีน (SHCOMP) -0.9% ขณะที่ตลาดหุ้นไทย (SET) สามารถปรับตัวบวกเล็กน้อย +0.1% (เวลาโดยประมาณ 14.45 น. วันที่ 2 ส.ค. 2566)
มุมมองและคำแนะนำการลงทุน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
"ยังคงมีมุมมองต่อหุ้นสหรัฐฯ เป็น Slightly Positive ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมาจากมุมมอง Neutral"
KAsset มองว่าเงินเฟ้อที่กำลังปรับลดลง ในขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ผู้บริโภคยังคงมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯถูกเลื่อนออกไป ด้านรายได้ของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 ที่กำลังทยอยประกาศออกมา มากกว่า 80% มีผลกำไรดีกว่าที่คาด ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่อยู่ที่ประมาณ 60-70% ของบริษัทที่ประกาศ โดยแม้ว่ารายได้และกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะไม่ได้เติบโตในไตรมาสนี้ แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอ่อนแออย่างมีนัยะสำคัญ
อนึ่ง การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือครั้งนี้ จะแตกต่างจากตอนสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ปรับ Rating ลงในปี 2011 โดยการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ Fitch ในครั้งนี้ อ้างอิงมาจากเหตุผล เรื่องเพดานหนี้สาธารณะ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี จึงไม่ได้มีนัยสำคัญที่ทำให้ KAsset เปลี่ยนมุมมองการลงทุน
มุมมองและคำแนะนำการลงทุน ตราสารหนี้
"ยังคงมีมุมมองต่อตราสารหนี้โลกเป็น Slightly Positive"
โดย KAsset มองว่า สามารถกระจายความเสี่ยง ลงทุนได้ทั้งตราสารหนี้ไทยและตราสารหนี้สหรัฐฯ ทั้งนี้เรามีการปรับลดมุมมองตราสารหนี้โดยรวมลงมาจาก Positive เนื่องจากเรามองว่า Fed อาจจะไม่ได้สามารถลดดอกเบี้ยได้เร็ว บวกกับเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังคงแข็งแกร่ง ทำให้ Fed ไม่มีความจำเป็นต้องลดดอกเบี้ย และยังคงมุมมอง higher for longer
ทั้งนี้ ประเด็นการปรับลด Rating ของ Fitch มีผลกระทบต่อตลาดค่อนข้างจำกัด ตลาดไม่ได้กังวลเรื่องการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มเติมจากประเด็นนี้ แต่การที่ Yield สหรัฐฯปรับตัวขึ้น มาจากความกังวลเรื่องอุปทานของพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มขึ้นจากประมาณ 7.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
หมายเหตุ ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com
บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2023
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
มุมมองการลงทุน หลังเลือกตั้ง พ.ค. 2566 >>
Clickกองทุน LTF ครบกำหนด ..ทำอย่างไรดี ? >>
ClickGDP จีนไตรมาสแรกขยายตัว 4.5% สูงกว่าคาด >>
Click