ปัจจุบัน ‘ตราสารหนี้’ เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าการแช่ไว้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ อีกทั้งในเวลาที่ตลาดมีความผันผวน ตราสารหนี้ก็ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากตลาดหุ้นได้ 

ดังนั้น การมี ‘ตราสารหนี้’ ติดพอร์ตเอาไว้จึงช่วยให้รับมือได้ในหลายๆ สถานการณ์ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ชอบความเสี่ยงมากนัก

(1) ดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูง และมีโอกาสคงอยู่ในระดับนี้นาน (Higher for Longer) นักลงทุนจะได้ประโยชน์จากการถือกองทุนที่ตราสารจ่ายดอกเบี้ยสูง

(2) ระยะถัดไป หาก Fed ส่งสัญญาณหยุดการขึ้นดอกเบี้ย จะเป็นแรงหนุนที่ชัดเจนต่อตลาดตราสารหนี้ได้ และเมื่อดอกเบี้ยกลับไปเป็นขาลง นักลงทุนก็จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีจากราคาตราสารหนี้ที่ปรับขึ้น (ราคาตราสารหนี้จะสัมพันธ์กับอัตราดอกเบี้ยในทิศทางตรงกันข้าม)

(3) ตราสารหนี้จะช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ต ในภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง

อย่างไรก็ดี ระยะสั้นนี้อาจจะยังเห็นความผันผวนระหว่างทางได้ จากการที่นักลงทุนมีมุมมองคาดการณ์ด้านดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะกองทุนที่มี Duration ยาวกว่า แต่คาดว่าความผันผวนเริ่มมีจำกัด จังหวะที่แนวโน้มดอกเบี้ยใกล้จุดสูงสุด ทำให้การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น แนะนำผู้ที่มีอยู่สามารถถือต่อไปได้ หากยังไม่มีเป็นโอกาสดีในการทยอยเข้าลงทุน

ขอแนะนำ “กองทุนตราสารหนี้” ผลการดำเนินงานโดดเด่น จาก KAsset ที่สามารถเลือกลงทุนได้ตามเป้าหมายและระยะเวลาการลงทุน พร้อมการันตีด้วยรางวัลบลจ.ยอดนิยมอันดับ 1 จาก Marketeer No.1 Brand Thailand 2023 ในหมวดกองทุนรวม โดยครองแชมป์ถึง 9 ปี

• เน้นลงทุนตราสารหนี้ไทยคุณภาพดี ให้โอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก

• เหมาะกับการเป็นแหล่งพักเงินสั้น ๆ ระยะเวลา 3 – 6 เดือน

• ดีกรี Morningstars 5 ดาว* ที่เน้นลงทุนในไทย พร้อมให้โอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น -เหมาะกับการลงทุนตั้งแต่ 9 เดือน – 1 ปี

• ลงทุนตราสารหนี้ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยปรับสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อรับมือความผันผวนทุกสภาวะตลาด

• เหมาะกับการลงทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป