06/10/2563

​บลจ.กสิกรไทย ส่ง Term Fund Extra ขายรายใหญ่ ชูโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าจาก Bond Forward

​บลจ.กสิกรไทย ส่งเทอมฟันด์ซีรีส์ใหม่ ‘Term Fund Extra’ ขายผู้ลงทุนรายใหญ่ เน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ระดับ Investment Grade พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าจากการเข้าทำธุรกรรม Bond Forward ประมาณการผลตอบแทน 1.40% ต่อปี


นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า สถานการณ์การลงทุนในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง โดยมีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลให้หุ้นปรับตัวขึ้นลงไปมา ในขณะที่เงินฝากและตราสารหนี้กลับมีเสถียรภาพที่มากกว่า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายที่ทำให้เกิดสภาพคล่องในระบบ ซึ่งคาดว่าดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำไปอีกนาน ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงเป็นจังหวะให้ผู้ลงทุนเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้จัดตั้งกองทุนซีรีส์ใหม่ในตระกูลเทอมฟันด์ Term Fund Extra ภายใต้ชื่อกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ เครดิต 3 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KEC3-AI) ที่เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าเทอมฟันด์ทั่วไป โดยประมาณการผลตอบแทนที่ 1.40% ต่อปี และมีกำหนดเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 7-12 ตุลาคม 2563

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน KEC3-AI มีการแบ่งสัดส่วนการลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 กองทุนเข้าลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วนประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (Net Asset Value: NAV) ซึ่งการลงทุนในส่วนนี้จะเหมือนกับนโยบายการลงทุนของเทอมฟันด์ทั่วไป แต่ความน่าสนใจที่ทำให้กองทุน KEC3-AI มีความแตกต่าง คือ ส่วนที่ 2 กองทุนจะเข้าเป็นคู่สัญญาในธุรกรรม Bond Forward ในสัดส่วนประมาณ 40% ของ NAV ซึ่งในส่วนนี้ทำให้กองทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนได้มากกว่าเทอมฟันด์ทั่วไป ในขณะเดียวกันก็จะมีความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ดี ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยงกองทุนผ่านการพิจารณาเข้าทำธุรกรรม Bond Forward เฉพาะกับหุ้นกู้ในระดับ Investment Grade และกระจายความเสี่ยงโดยการเข้าทำธุรกรรมในหุ้นกู้อ้างอิงอย่างน้อย 4 สัญญา

“ลักษณะการเข้าทำธุรกรรม Bond Forward คือ กองทุนจะเข้าเป็นคู่สัญญาในฐานะผู้ซื้อหุ้นกู้อ้างอิงจากธนาคารคู่สัญญา โดยมีระยะเวลาของสัญญาประมาณ 1 ปี ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดหวัง กองทุนจะได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันกับธนาคารคู่สัญญาในวันครบกำหนดอายุสัญญา แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องยกเลิกสัญญาก่อนวันครบกำหนด (Early Termination) ธนาคารคู่สัญญาจะต้องส่งมอบหุ้นกู้อ้างอิงให้แก่กองทุน และกองทุนจะต้องชำระราคาตามที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า (Forward Price) รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้กองทุนได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าจากที่ประมาณการไว้ได้” นายนาวินกล่าว

นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่สนใจกองทุน KEC3-AI จะต้องเป็นผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูงเท่านั้น โดยเริ่มต้นลงทุน 1,000,000 บาท ผ่านช่องทางธนาคารกสิกรไทย ไม่สามารถลงทุนผ่านช่องทางดิจิตอลได้ ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิไม่รับชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนด้วยเช็คในวันที่ 12 ตุลาคม 2563 อย่างไรก็ดี เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการประมาณ 1 ปี บริษัทจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย ผู้ลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

Picture1.png

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน • กองทุนอาจไม่ได้รับเงินต้นและผลตอบแทนตามที่คาดหมายไว้ หากผู้ออกตราสารหรือธนาคารที่กองทุนลงทุนไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืนได้ หรือในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลให้มีการชำระราคาและการส่งมอบหุ้นกู้อ้างอิงก่อนวันครบกำหนดอายุของธุรกรรม Bond Forward • กองทุนอาจมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ทำให้อาจมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิงโดยตรง จึงอาจมีกำไร/ขาดทุนสูงกว่าการลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิงโดยตรง • กองทุนจะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ


ประเภท